At the beginning......


           ประวัติส่วนตัว
 

                                                 .

        เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เกิดวันที่ 8 ธันวาคม 2501 ที่ร.พ. วชิระสามเสน มีพี่น้องทั้งหมด 10 คน เป็นคนที่ 9 คุณพ่อชื่อ จิมมี(เจมส์) เป็นชาวสกอตแลนด์ ซึ่งมีอาชีพเป็นทั้งนักเขียนตำรา และนักดนตรี เจ้าของนามปากกา "ยศปรัชญากุล" และ "เจมส์ แมคอินไตย์" คุณแม่ชื่อ อุดม มีเชื้อสายมาเลเซีย
          เข้าศึกษาครั้งแรกที่โรงเรียนวัดนิมานรดี จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 7  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ศึกษาที่โรงเรียนวัดปัญญาวรคุณ ต่อมาเข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยพาณิชยการธนบุรี ในระดับปวช.-ปวส. เมื่อจบการศึกษา 5 ปีจากพาณิชยการธนบุรีได้รับอนุปริญญา เบิร์ด ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานฝ่ายต่างประเทศ ธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ
          ชีวิตในวัยเด็ของเบิร์ดนั้นไม่ได้ผ่านมาอย่างสวยงาม แต่วันเวลาที่ผ่านมานั้นมีแต่ความรักและความอบอุ่นที่มีให้กันในครอบครัว เบิร์ดเติบโตมาในย่านสลัมบางแค งานที่ทำเพื่อหาเงินช่วยครอบครัวเสมอๆ คือ เย็บงอบ ล้างกระป๋อง พับถุง และขายเรียงเบอร์ บางครั้งเบิร์ดไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวทาน แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เขาท้อใจหรือยอมแพ้ เพราะด้วยความรักที่ทุกคนในครอบครัวมีให้กัน ช่วยเหลือกัน และความอบอุ่นที่คุณพ่อและคุณแม่ให้เบิร์ดมา เหล่านั้นที่ช่วยหล่อหลอมให้เบิร์ดเป็นเบิร์ดเช่นทุกวันนี้ เบิร์ดเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสารเล่มหนึ่งว่า " วัยเด็กเบิร์ดอาจจะขาดทรัพย์ แต่สิ่งหนึ่งที่เบิร์ดมั่นใจว่าครอบครัวเราไม่ขาดคือความอบอุ่น เรามีหลักดีคือ ป๋าและแม่  โดยเฉพาะป๋าซึ่งฉลาดในการสอนลูกมาก เบิร์ดได้ความคิดในแง่บวกจากป๋ามาเต็มๆ --- ทุกนาทีมีแต่ความสุข --- เวลาเบิร์ดพูดถึงบางแคเบิร์ดจะยิ้มอย่างมีความสุข แบบว่าดีแล้วที่ไม่เกิดมารวยตั้งแต่เด็ก ดีที่เราเกิดมาต่ำกว่าศูนย์ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่เห็นค่าของความลำบากตรงนั้นเลย ถ้าเป็นภาพก็ใส่กรอบทองได้ หรือจะทำเป็นล็อกเกตบางแคเก็บไว้ในใจก็สวย --- หากวันนี้ต้องกลับไปจนอีก  คล่องเลย เบิร์ดคล่องมากกว่าจะทำอะไรกินกัน ไม่ตกใจเรียกว่าเป็นมือโปรได้ เบิร์ดคือโปรเฟสชันเนลด้านความจน จะจนอีกก็จนเลย แบบว่า... ( หัวเราะ ) เบิร์ดสามารถจนได้อย่างสนุกมาก "



 

      จุดหักเหสู่วงการบันเทิง

                                                     .

        คืนหนึ่งที่เธค "ฟามิงโก" ในโรงแรมชวลิต ( โรงแรมแอมบาสเดอร์ ในปัจจุบัน ) ย่นาสุขุมวิท ขณะที่เบิร์ดออกไปเต้นรำ ได้พบกับ"คุณไก่ วรายุฑ  มิลินทจินดา " ที่รู้สึกสะดุดตากับเบิร์ด จึงเข้าไปทาบทามและชวนให้มาแสดงละครทางช่อง 3 ละครเรืองแรกคือเรื่อง " น้ำตาลไหม้ " ซึ่งคุณอดุลย์ ดุลยรัตน์เป็นผู้กำกับการแสดง โดยมีนพพล โกมารชุน และ ลินดา ค้าธัญเจริญ แสดงนำ
          ด้วยบุคลิกที่สนุกสนานร่าเริง บวกกับความสามารถทางการแสดงที่มีอยู่ จึงทำให้เบิร์ดมีผลงานทางการแสดงมากขึ้นจนรู้สึกรักวงการนี้ และบ่อยครั้งที่เขาต้องลางานที่ธนาคารมาแสดงละคร ในที่สุดเขาได้ลาออกจากงานประจำ คือการทำงานธนาคาร เพื่อจะได้ทำงานด้านการแสดงได้อย่างเต็มที่
    หลังจากจบละครเรื่องน้ำตาลไหม้ เบิร์ดก็มีผลงานตามมาอีกมากมาย ทั้งละครและภาพยนตร์
                                                    click here to TV history


 จากนักแสดงสู่ความเป็นนักร้อง

                         .
        ความใฝ่ฝันอีกอย่างหนึ่งของธงไชย แมคอินไตย์ก็คืองานด้านดนตรี ในเรื่องของการร้องเพลงนั่นเอง ด้วยอยากจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง  และเพื่อทำตามความใฝ่ฝันที่มี เบิร์ด์จึงไปสมัครประกวดร้องเพลงของ " สยามกลการ Music Foundation " เพื่อชิงรางวัลถ้วยพระราชทาน
           เบิร์ดเลือกร้องเพลง " ชีวิตคือละคร " และเพลง "จุดหมายปลายทาง"เข้าประกวด จากการร้องเพลงเบิร์ดได้รับรางวัล นักร้องดีเด่นจากเพลงชีวิตคือละคร  รางวัลพิเศษจาก ดร.ถาวร พรประภา จากเพลงจุดหมายปลายทาง และรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการอีกหนึ่งรางวัล
                   จากการประกวดร้องเพลงครั้งนี้เอง ทำให้ชีวิตของเบิร์ดเปลี่ยนไป เมื่อ " เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์ " ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการได้เห็นถึงพรสวรรค์ที่มีในตัวของเบิร์ด จึงได้ชักชวนให้มาเป็นนักร้องในสังกัดของ Grammy ซึ่งในขณะนั้น Grammy กำลังเจริญเติบโตเป็นหนึ่งในค่ายเพลงที่มีคุณภาพ เมื่อได้รับการทาบทามให้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เบิร์ดก็ตอบตกลงทันที ด้วยความสามารถและพรสวรรค์ที่มี บวกกับการสนับสนุนที่ดี ด้านการร้องเพลงจาก คุณเรวัต พุทธินันท์  ส่งผลให้เบิร์ดเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกคนหนึ่งในยุคนั้นจนถึงทุกวันนี้  ครั้งหนึ่งเบิร์ดเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า " ช่วงนั้น ( ทำอัลบั้ม ) ใจเต้นตุบตับๆ เพราว่าไม่เคยอะไรแบบนี้มาก่อนเลย  ไปถ่ายมิวสิควิดีโอเนี่ย ถ่ายไปเนี่ย ไม่รู้หรอกว่าคนเขาจะดูมั้ย พอออกมาคนก็ให้การต้อนรับ แบบว่าเร็วมาก เร็วจนกระทั่งต้องทำใจ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวมันกระเจิง และเดี๋ยวมันจะพ้นจากมิตินี้ไป แล้วพี่เต๋อก็บอกว่า เป็นคนดีนะ อย่าหลงตัว อย่าลืมตัวเอง  พี่เต๋อคอยสอนตลอดเวลา "  และผู้ที่อยู่เป็นเพื่อนเบิร์ดตลอดมาคอยช่วยเหลือด้านต่างๆ ตั้งแต่ครั้งประกวดร้องเพลงก็คือ  ผู้จัดการส่วนตัว "พรพิชิต พัฒนถาบุตร" หรือ นกน้อย นั่นเอง ซึ่งเบิร์ดพูดถึงคุณพรพิชิตไว้ว่า " รู้จักกันตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ พี่น้อยเขาเป็นเพื่อนคุณไก่วรายุฑ แล้วเขาคงเห็นอาการเบิร์ดแบบว่า ไอ้นี่มันเอาแต่ทำงานไม่ดูแลอะไรเลย จึงแนะนำว่าควรจัดตารางชีวิตบ้างนะ ---  เขาเป็นคนที่ชีวิตมีแต่ความสนุกอยย่างเดียว ถ้ามีใครเอากล้องวิดีโอมาถ่ายเบิร์ดกับพี่น้อย 2 คนตอนอยยู่บ้านนะ ได้ขำกันฉี่ราดแน่ๆ เพราะคุยสนุก เป็นคาเฟ่กันทั้งวันน่ะ --- ความสำเร็จของเบิร์ดในวันนี้พี่น้อยมีส่วน ? --- คือความสำเร็จของพี่น้อยด้วย เพราะฉะนั้นกับคนนี้ เบิร์ดถือว่าเป็นเพื่อนชีวิตได้เลย "
 

                                                     .

       ขณะที่เบิร์ดกำลังฝึกร้องเพลงเพิ่มเติมเพื่อทำอัลบั้มแรกอยู่นั้น เขาได้ทำหน้าที่พิธีกรรายการ "7 สีคอนเสิร์ต" คู่กับคุณมยุรา ธนtบุตร ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดีเพราะความสามารถ ปฏิภาณ และความเป็นคู่ที่เหมาะสมระหว่าง ธงไชย และมยุรา               และแล้ววันที่เบิร์ดจะได้ออกเทปก็มาถึง


 
                                                                                                                                                                                                 .